5 กิจกรรมเสี่ยงของแม่บ้าน-พ่อบ้าน ที่อาจทำให้ฝ้า-กระ เกิดขึ้นในบ้านโดยไม่รู้ตัว!

แสงแดด ถือเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยแต่ไม่อยากคุ้นชิน เพราะนอกจากจะทำให้อุณหภูมิโดยรอบร้อนระอุจนน่าหงุดหงิดแล้ว ก็ยังทำให้ผิวพรรณทั้งกายและใบหน้าของเราพลอยเสียไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนเลยทีเดียว เพราะแดดที่มาพร้อมกับรังสี UV ต่างๆ นั้น ทำลายชั้นผิวของเราให้เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นกว่าวัยอันควร นำพามาซึ่งปัญหาผิวมากมาย เช่น ฝ้า กระ สิว ผด ผื่น ผิวหน้าหมองคล้ำ  

รักษาฝ้า

ฝ้า-กระ เกิดขึ้นบนหน้าเราได้อย่างไร?

เนื่องจากในแสงแดดประกอบไปด้วยรังสีทั้ง UVA และ UVB ที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 290-400 นาโนเมตร เมื่อตกกระทบผิวหน้าของเราแล้ว จะทำให้ชั้นผิวหน้าถูกทำลาย คือ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระในผิวหน้า และทำลายความชุ่มชื้นของผิวหน้า จึงทำให้ใบหน้ามีความหมองคล้ำง่าย เหี่ยวย่น ผิวหน้ามีอาการเกรียมแดด และอื่นๆ ฯลฯ

กิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดฝ้า-กระโดยที่เราไม่ทันระวัง

  1.     ยืนตากผ้าหน้าบ้าน

การตากผ้า-เก็บผ้า เป็นกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หลายคนไม่ทราบว่า การตากผ้ากลางแสงแดดโดยไม่ใส่หมวกหรือกางร่มเลย แสงแดดจะเข้ามาทำลายชั้นผิวของเราได้ง่ายมากๆ และเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า-กระบนใบหน้าอย่างมากเลยทีเดียว

  1.     เป่าผมด้วยลมร้อน

งานวิจัยจากแพทย์ผิวหนังที่สหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันแล้วว่า การเป่าผมด้วยลมร้อน ส่งผลให้ชั้นผิวของเราเสื่อมลงและถูกทำลายได้ไม่ต่างจากการโดนแสงแดดเลย ซึ่งส่งผลโดยตรงกับความชุ่มชื้น และความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณด้วย

  1.     เล่นโทรศัพท์มือถือ-ดู TV

แสงสีฟ้า (Blue light) ถือว่าเป็นอีกคลื่นรังสีที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับรังสีอัลตร้าไวโอเลต แถมยังมีความยาวคลื่นถึง 400-500 นาโนเมตรเลยทีเดียว จึงถือได้ว่าเป็นรังสีอีกตัวที่อันตรายมากๆ และงานวิจัยก็ออกมารองรับแล้วว่า เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหาที่ทำให้สภาพผิวเราย่ำแย่ลง

  1.     ยืนทำอาหาร

การยืนทำอาหารหน้าเตาเป็นระยะเวลานานๆ  ทำให้ผิวหน้าโดยไอร้อนจากเตา จึงทำให้ผิวหนังอ่อนแอลงได้ และหากทำติดต่อกันไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดปัญหาฝ้าได้เช่นเดียวกัน

  1.     ซาวน่า

หลายคนชื่นชอบการซาวน่าเพราะให้ความผ่อนคลาย แต่รู้หรือไม่ว่า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เสี่ยงมากสำหรับทำลายเซลล์ผิวหน้า เพราะทำให้ผิวหน้าเจอกับความร้อนสูงอยู่ตลอดเวลา หากทำบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวบางจนเกิดปัญหาฝ้า-กระตามมาได้

อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘แสงแดด’ คงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดฝ้า-กระ แต่เมื่อใดก็ตามที่ผิวเราได้รับไอความร้อน ก็จะทำลายเซลล์ชั้นผิวจนทำให้ผิวอ่อนแอลงได้เช่นกัน ทางที่ดีควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ ทุกวันทั้งบริเวณลำตัวและใบหน้า เมื่อออกแดดก็ควรกางร่ม ไม่ควรออกไปเผชิญแสงแดดตรงๆ เกินกว่า 15 นาที เพราะเสี่ยงทำให้เซลล์ผิวชั้นลึกของเราถูกทำลายร้ายแรง

ใครที่รู้ว่ากำลังทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการทำลายผิว แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ขอให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพื่อที่ปัญหาเรื่องฝ้า-กระจะได้ไม่ถามหาเอาในภายหลัง

 

อ้างอิง :

      https://skinbetter.com/4-ways-minimize-appearance-melasma/ – :~:text=Heat from sitting by a,can trigger melasma flare-ups.

      http://petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/skin-disease-caused-by-sunlight

      https://www.pobpad.com/แดด-ประโยชน์และโทษ-กับด้

      https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/sun-protection/hevis-light – :~:text=บเล็ต-,ปัญหาผิวที่มาจากการโดนแสงสีฟ้า,ฝ้า กระ จุดด่างดำ

      https://allaboutyou.co.th/th/module/blog/blogarticledescription?article_id=155&name=Blue+Light+ภัยเงียบต่อผิวใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง

      https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/melasma-freckle – :~:text=รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดเป็น,จะช่วยลดปัจจัยที่

      https://www.dailymail.co.uk/femail/article-5897351/Dermatologist-reveals-hairdryer-destroying-skin.html

      https://www.wellandgood.com/heat-damage-to-skin/

      https://www.allure.com/story/blue-light-phone-skin-effects – :~:text=The best evidence we have,t always noticeable right away.