ยุคนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน จะเห็นว่าอาหารเสริมวางจนเต็มเชลฟ์ไปหมด รวมไปถึงโลกออนไลน์ก็มีอาหารเสริมหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรูปแบบให้เราเลือกรับประทาน คำถามคือ อาหารเสริมเหล่านี้จำเป็นจริง ๆ หรือไม่ ? ลองมาพิจารณาตาม 5 เหตุผลนี้ดู
1. ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินบางชนิดเองได้ จึงต้องทานเสริมเข้าไปเพื่อเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
2. เราอยู่ในยุคที่ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่บริโภคแต่ของสำเร็จรูป ซึ่งขาดคุณค่าทางสารอาหาร จึงทำให้อาหารเสริมเป็นสิ่งจำเป็น
3. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้แข็งแรง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. กระตุ้นการดูดซึมของร่างกายในคนสูงวัย ให้สามารถรับสารอาหารและลำไส้ทำงานได้อย่างดีขึ้น
5. ช่วยบำรุงเรื่องความสวยงามของผิวพรรณ ผม เล็บ และอื่น ๆ ให้มีความเปล่งปลั่ง แข็งแรง ดูสุขภาพดีจากภายใน
ทั้ง 5 เหตุผลนี้ คือคำตอบที่คนส่วนใหญ่เลือกทานหรือบริโภคอาหารเสริมเข้าร่างกาย เพราะการขาดวิตามินบางจำพวก อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และอาจทำให้รู้สึกเสียดายที่ไม่บำรุงดูแลสุขภาพตัวเองภายหลังได้
หากร่างกายขาดวิตามิน-อาหารเสริมจะเกิดอะไรขึ้น ?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า มีวิตามินบางชนิดที่ร่างกายไม่สารถผลิตเองได้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องทานเข้าไปเพื่อให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าหากทานในปริมาณที่พอดี เหมาะสม พร้อมกับรับประทานอาหารครบหมู่ควบคู่ไปด้วย ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายยิ่งแข็งแรง
แต่ในทางกลับกัน หากไม่บำรุงดูแลและปล่อยปละละเลยไป รับรองว่าจะต้องเสียใจกับร่างกายที่ขาดวิตามินเหล่านี้ไปอย่างแน่นอน อาการขาดวิตามิน เช่น
- ขาดวิตามิน A: ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ตามืดบอดสนิทเมื่ออยู่ในที่มืด
- ขาดวิตามินบี 1 : ขาดสมาธิ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ท้องอืด ท้องผูก
- ขาดวิตามินบี 2 : ริมฝีปากบวม-แดง ปวดแสบในปาก ลิ้น อีกทั้งยังมีอาการคันตาและอื่นๆ ฯลฯ
- ขาดวิตามินบี 3: เป็นผื่น-เป็นสะเก็ดบนผิวหนัง ท้องเสีย-ท้องผูก ลิ้นแดงผิดปกติ
- ขาดวิตามินบี 5: มีอาการเหน็บชาตามปลายมือและเท้า ความรู้สึกเพี้ยน
- ขาดวิตามินบี 6: มีแผลตามมุมปาก เยื่อตาอักเสบ มีอาการง่วง ซึม หรือนอนไม่หลับ
- ขาดวิตามิน C: เลือดออกที่เหงือก มีอาการเหงือกบวม มีจุดจ้ำตามผิวหนัง
- ขาดวิตามิน E: ประสาทสัมผัสชา อีกทั้งมีผลต่อระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบเลือด
- ขาดวิตามิน D: มวลกระดูกเสื่อมเร็ว เมื่อลื่นล้มอาจเสี่ยงกระดูกแตก-หักได้ง่ายกว่าปกติ
- ขาดแคลเซียม: เวียนหัว เป็นตะคริว ทรงตัวลำบาก และมีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
- ขาดโพรไบโอติก: มีอาการเกี่ยวกับภูมิแพ้ ลำไส้แปรปรวน ท้องผูก กรดไหลย้อน
โปรไบโอเคลียร์ – ProbioKhlear Tetrabiotics Innovation #โปรไบโอติกส์งานวิจัยเภสัชจุฬา
ProbioKhlear ไม่ได้ดูแลแค่ลำไส้ แต่ยังช่วยดูแลเรื่องระบบขับถ่าย และเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับมือกับมลภาวะ ลดการอักเสบ และฟื้นร่างกายจากผลกระทบของ PM2.5 ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ช่วยลดปัญหาลำไส้แปรปรวน ช่วยลดการเกิดปัญหาผิวซ้ำซาก เช่น เซ็บเดิร์ม,สิว,ผิวอักเสบ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ วิธีการรับประทาน : 1 แคปซูล ขณะท้องว่าง วิธีการเก็บรักษา : ควรเก็บในที่เย็นและแห้ง ไม่ควรถูกแสงแดดและความร้อน อย: 12-1-06656-5-0135 Halal 10 R957 002 09 66 ปริมาณบรรจุ / กระปุก : 30 แคปซูล / กระปุก
มีสินค้าอยู่ 42
อย่างไรก็ดี แม้การทานอาหารเสริม-วิตามินเสริมจะเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ผู้บริโภคก็ควรที่จะเลือกซื้อจากแบรนด์ที่สามารถเชื่อถือได้และมี อย. ในการควบคุมดูแล อีกทั้งการทานอาหารเสริมดังกล่าว ควรอยู่ภายใต้การดูแล-ปรึกษาแพทย์ก่อนทาน ในกรณีของผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะอาหารเสริมและวิตามินบางชนิด อาจส่งผลต่อโรคที่ผู้บริโภคกำลังเป็นอยู่ได้
ที่สำคัญต้องไม่ลืมเรื่องการทานอาหารให้ครบห้าหมู่เป็นหลัก เพราะ “อาหารเสริม” มีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว คือ “ไว้ทานเสริมหลังจากรับประทานอาหารครบหมู่” แล้วนั่นเอง